หากพูดถึง เกมไพ่ ในปัจจุบัน หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงเกมที่ตนเองเคยเล่นหรือรู้จักกันมามากมาย ไว้ว่าจะเป็น ป๊อกเด้ง
บาคาร่า สลาฟ หรือแม้แต่ แบล็คเจ็ค เองก็ตาม ซึ่งเกมเหล่านี้มักจะถูกหยิบมาเล่นทุกครั้งที่มีการเจอกันของเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องภายในครอบครัว ซึ่งสามารถเล่นได้ง่าย เพียงแค่มีสำรับไพ่และคนเล่นก็เพียงพอแล้ว แต่พอมาเป็นการเล่นในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาจนสามารถเล่นออนไลน์ผ่านมือถือได้แล้ว ซึ่ง เกมไพ่ ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นออนไลน์มากที่สุดก็คือ
แบล็คแจ็ค นั่นเอง สำหรับบทความของเราในครั้งนี้จึงจะมาอธิบายเกี่ยวกับเกมชนิดนี้กันว่าเป็นอย่างไร และน่าสนใจมากแค่ไหน ถ้าคุณพร้อมแล้วเรามาเริ่มเนื้อหาสาระของบทความในครั้งนี้กันได้เลย

ทำความรู้จักกับ เกมไพ่ แบล็คแจ็ค กันดีกว่า

สำหรับเกมไพ่ชนิดนี้มีชื่อเรียกในไทยว่า ไพ่ยี่สิบเอ็ด ซึ่งมาจากการมีแต้มในมือ 21 ถือเป็นแต้มสูงสุดในเกมนี้นั่นเอง ซึ่งพระเอกสำคัญของการชนะเกมนี้ก็คือการมี A และไพ่แต้ม 10 อย่าง 10, J, Q, K เมื่อรวมกันก็จะได้แต้มเป็น 21 นั่นเอง สำหรับความนิยมของไพ่ชนิดนี้นั่นได้รับความนิยมในวงการคาสิโนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเราจะเดินทางไปประเทศไหนที่มีคาสิโนก็มักจะเจอกับเกมนี้ทุกครั้งไป อีกทั้งผู้เล่นที่เข้ามาใช้บริการเกมนี้ยังมีอยู่ตลอดไม่ขาดสายเลยแม้แต่น้อย จึงเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่าเกมนี้ได้รับความนิยมมากขนาดไหน

ยิ่งพอมาเป็นยุคปัจจุบันที่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ยิ่งเข้าถึงผู้เล่นทั่วโลกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จนมีเหล่านักลงทุนเปิดให้บริการเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ และแน่นอนว่า เกมไพ่ แบล็คแจ็ค ก็ถูกพัฒนาให้มาอยู่ในรูปแบบเกมออนไลน์ด้วยเช่นกัน หากเทียบจากยอดผู้ใช้บริการทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ว่า ผู้ที่เล่นเกมนี้มีมากกว่าเกมเดิมพันอื่น ๆ หลายเท่า ทำให้เราสามารถสรุปได้เลยว่ารูปแบบไพ่ของเกมนี้นั้นได้รับความนิยมจากเหล่าผู้เล่นเป็นอย่างมากแน่นอน

กฎกติกาการเล่น แบล็คแจ็ค

สำหรับ เกมไพ่ ชนิดนี้จะมีกฎกติกาที่เป็นมาตรฐานสากลอยู่เช่นเดียวกันกับไพ่ชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในคาสิโนหรือระบบออนไลน์ก็จะมีหลักการเล่นและกฎกติกาพื้นฐานเหมือนกันหมดทั้งนั้น ทางเราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นไพ่ชนิดนี้เอาไว้ให้คุณเป็นหัวข้อย่อย ๆ เพื่อให้คุณเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้วดังต่อไปนี้

1. BlackJack

ผู้เล่นที่ได้ BlackJack คือผู้ที่มีไพ่ A กับไพ่ 10 แต้มอยู่ในมือตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็น A กับ 10, A กับ J, A กับ Q หรือ A กับ K ต่างก็ถือได้ว่าผู้เล่นคนนั้นได้ BlackJack ซึ่งจะถือว่าได้แต้มเยอะที่สุดในเกมแล้วนั่นเอง

2. Bust

ผู้เล่นที่ได้ Bust คือผู้ที่มีแต้มไพ่ในมือเกิน 21 แต้ม ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการที่ผู้เล่นรายนั้นขอจั่วไพ่ในมือเพิ่ม จนมีแต้มเกิน 21 แต้ม ซึ่งจะถือว่าผู้เล่นที่ได้ Bust แพ้ในรอบนี้ทันที

3. Hit

ผู้เล่นที่ขอ Hit คือผู้เล่นที่ต้องการขอจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบจากเจ้ามือหรือผู้แจกไพ่ ซึ่งถ้าหากแต้มในมือยังไม่เกิน 21 แต้ม ทางผู้เล่นก็ยังสามารถขอ Hit หรือจั่วไพ่ในมือเพิ่มอีก 1 ใบได้อยู่นั่นเอง

4. Hole card

ผู้เล่นที่ขอ Hole card คือหลังจากที่ทางเจ้ามือเปิดไพ่ในมือ 1 ใบแล้ว ทางผู้เล่นสามารถขอให้เจ้ามือปิดไพ่ใบที่สองลงก่อน แล้วเมื่อผู้เล่นตัดสินใจว่าจะเล่นต่อหรือหมอบได้แล้วค่อยให้ทางเจ้ามือสามารถเปิดการ์ดใบที่สองได้

5. ความพิเศษของไพ่ A

สำหรับไพ่ A นั้นสามารถแทนแต้มได้สองแบบคือ 11 แต้ม กับ 1 แต้ม ซึ่งกรณีที่เริ่มเกมผู้เล่นมีไพ่ในมือ 2 ใบแล้วมี A อยู่ด้วยจะถือว่า A ใบนั้นคือ 11 แต้ม แต่ถ้ากรณีที่ผู้เล่นขอจั่วไพ่เพิ่มแล้วได้ A มาไว้ในมือจะถือว่า A ใบนั้นเป็น 1 แต้มนั่นเอง

6. แต้มเสมอ

สัญลักษณ์ในไพ่ไม่มีผลต่อแต้มการเล่น เพราะฉะนั้นภายในเกมนี้ผู้เล่นมีสิทธิที่จะมีแต้มไพ่เท่ากับของเจ้ามือเช่นกัน

อัตราการจ่ายเงินของเกม แบล็คแจ็ค

แน่นอนว่า เกมไพ่ ชนิดนี้จะมีมาตรฐานการจ่ายเงินรางวัลที่เหมือนกันทั่วโลกอยู่เช่นกัน แต่ก็มีบางคาสิโนหรือบางผู้ให้บริการที่ออกแบบระบบการเล่นหรือรูปแบบการจ่ายเงินรางวัลที่ต่างกันไปอยู่ด้วย ซึ่งทางเราได้รวบรวมอัตราการจ่ายเงินรางวัลทั้งหมดเอาไว้ให้คุณได้ลองศึกษาและทำความเข้าใจแล้วดังต่อไปนี้

1. กรณีแต้มแพ้เจ้ามือ

สำหรับกรณีนี้คือการที่ไพ่ในมือคุณมีแต้มน้อยกว่าเจ้ามือ คุณก็จะต้องเสียเงินเดิมพันทั้งหมดที่คุณลงไว้ในตานั้นไป

2. กรณีแต้มในมือเกิน 21 แต้ม

สำหรับกรณีนี้คือคุณขอจั่วไพ่ในมือจากเจ้ามือเพิ่มจนมีแต้มไพ่ในมือเกิน 21 แต้ม ก็จะถือว่าคุณแพ้ในการเดิมพันรอบนั้นและต้องเสียเงินเดิมพันทั้งหมดที่คุณลงไว้ในตานั้นไป

3. กรณีแต้มเท่ากับเจ้ามือ

สำหรับกรณีนี้คือคุณมีแต้มไพ่ในมือเท่ากับเจ้ามือนั้น โดยแต่ละผู้ให้บริการจะมีการตกลงไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการให้เงินเดิมพันของคุณคืนไปเช่นเดิม

4. กรณีแต้มมากกว่าเจ้ามือ

สำหรับกรณีนี้คือคุณมีแต้มที่มากกว่าเจ้ามือและไม่เกิน 21 แต้ม จะถือว่าคุณชนะการเดิมพันครั้งนั้นและได้รับเงินรางวัล 1 เท่าของเงินเดิมพันนั่นเอง

5. กรณีแต้มในมือได้ 21 แต้ม

สำหรับกรณีนี้คือคุณมีแต้มในมือ 21 แต้ม ซึ่งจะถือว่าคุณได้ BlackJack โดยแต่ละผู้ให้บริการจะมีการตกลงไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะถือว่าผู้เล่นเป็นฝ่ายชนะและได้เงินรางวัล 1 เท่าของเงินเดิมพัน ถึงแม้ว่าทางเจ้ามือจะได้ 21 แต้มเช่นกันหรือไม่นั่นเอง

6. กรณีผู้เล่นขอ Hole card

สำหรับกรณีนี้คือทางเจ้ามือเปิดไพ่ในมือ 1 ใบ แล้วคุณขอ Hole card หรือก็คือหยุดการเปิดไพ่อีกหนึ่ง 1 ของเจ้ามือไว้ก่อน (ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ เจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกได้ A) ในช่วงนี้ทางผู้เล่นจะมีเวลาตัดสินใจ หากขอหมอบไพ่ในช่วงเวลานี้ไม่เล่นต่อ จะเสียเงินเดิมพันเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

เทคนิคการเล่นพื้นฐานของเกม แบล็คแจ็ค

สำหรับ เกมไพ่ ชนิดนี้ทุก ๆ คนก็คงต้องการที่จะใช้เทคนิคดี ๆ เพื่อให้ได้รับชัยชนะกันอยู่แล้ว แต่สำหรับเหล่านักเดิมพันหน้าใหม่เองที่ไม่มีเทคนิคพิเศษอะไรเลย ทางเราได้มีการรวบรวมเทคนิคพื้นฐานดี ๆ ที่เข้าใจง่ายและได้ผลดีเอามาฝากกัน โดยเทคนิคต่าง ๆ ทางเราได้แบ่งเป็นหัวข้อย่อย ๆ เอาไว้แล้วดังต่อไปนี้

• วิเคราะห์จากสถิติ

โดยปกติแล้วเจ้ามือกับผู้เล่นจะมีโอกาสแพ้ชนะสลับกันไป ซึ่งถ้าหากเรานำข้อมูลด้านสถิติแพ้ชนะตรงนี้มาวิเคราะห์ก็จะสามารถประเมินได้ว่าในตาต่อไป ฝ่ายใดน่าจะเป็นฝ่ายชนะ ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นว่าควรจะเลือกเดิมพันแบบใดดีในตานี้นั่นเอง

• นับไพ่

สำหรับการนับไพ่ ไม่ได้ถือว่าเป็นการโกงเจ้ามือแต่อย่างใด เพราะปกติแล้วการนับไพ่ก็สามารถทำได้ยากอยู่แล้ว ซึ่งทางผู้เล่นจะต้องนับไพ่ที่ใช้ไปแล้วในแต่ละตา ตั้งแต่เริ่มเล่นเกมเปิดสำรับใหม่ครั้งแรก จนถึงปัจจุบันว่าได้ใช้ไพ่ใบใดไปแล้วบ้าง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่ามีโอกาสแพ้ชนะในตานั้น ๆ มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

และทั้งหมดนี้คือเนื้อหาสาระของบทความเรื่อง เผยทุกเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับ เกมไพ่ ยอดนิยมอย่าง แบล็คแจ็ค จากบทความนี้คุณคงจะเห็นแล้วว่าการเล่นไพ่ชนิดนี้สามารถชนะได้ง่ายขนาดไหน ทางเราก็หวังเพียงว่าบทความของเราในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณบ้างไม่มากก็น้อย