เมื่อมีการรวมตัวกันในเครือญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง เราก็มักที่จะมีการทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง แล้วถ้าหากมีสำรับไพ่อยู่ในบ้านก็คงหนีไม่พ้นเกมไพ่ที่นิยมเล่นกันอย่าง ป๊อกเด้ง โป๊กเกอร์ หรือแม้แต่เกมไพ่ สลาฟ เองก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่พอมาเป็นปัจจุบันนี้ เกม สลาฟ ได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้นจนกลายเป็น สลาฟออนไลน์ ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาเล่นได้
ง่าย ๆ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเอง สำหรับบทความของเราในครั้งนี้จึงจะมาเจาะลึกเกมไพ่ชนิดนี้กันว่าเป็นอย่างไร แล้วพอมาเป็นรูปแบบออนไลน์นั้นดีกว่าเดิมอย่างไรบ้าง ถ้าคุณพร้อมแล้วเรามาเริ่มเนื้อหาสาระของบทความในครั้งนี้กันได้เลย

รู้จักการเล่นไพ่ สลาฟ กันก่อน

หากคุณกำลังสนใจเล่นเกม สลาฟออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้แล้วล่ะก็ คุณก็จะต้องเข้าใจการเล่นของเกมนี้ให้ดีเสียก่อน มิเช่นนั้นคุณก็จะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าจะสามารถชนะเกมไพ่ชนิดนี้ได้อย่างไร โดยทางเราได้รวบรวมข้อมูลของเกมไพ่ชนิดนี้เอาไว้ให้คุณแล้วโดยแบ่งเป็นหัวข้อย่อย ๆ ภายในบทความนี้เพื่อให้คุณได้เข้าใจหลักการเล่น สลาฟออนไลน์ ได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

รูปแบบการเล่นเกมไพ่ สลาฟ

โดยปกติแล้วเกมไพ่ สลาฟออนไลน์ จะใช้ไพ่ทั้งหมด 52 ใบ ตั้งแต่ 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, Q, K และ A นั่นเอง ซึ่งไพ่แต่ละตัวจะมีสัญลักษณ์ทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ดอกจิก, ข้าวหลามตัด, หัวใจ และโพธิ์ดำ นั่นเอง รวมแล้วได้ 13 คูณ 4 เป็น 52 ใบพอดี ซึ่งสำหรับเกมไพ่ชนิดนี้ เลข 3 ถือเป็นไพ่ต่ำสุด และ 2 ถือเป็นไพ่สูงสุด ส่วนสัญลักษณ์ ดอกจิก ถือเป็นสัญลักษณ์ไพ่ต่ำสุด และ โพธิ์ดำ ถือเป็นสัญลักษณ์ไพ่สูงสุด ถ้าหากเรียงตามลำดับจะได้ 3(ดอกจิก), 3(ข้ามหลามตัด), 3(หัวใจ), 3(โพธิ์ดำ), 4(ดอกจิก), 4(ข้ามหลามตัด), 4(หัวใจ), 4(โพธิ์ดำ), 5(ดอกจิก), 5(ข้ามหลามตัด), 5(หัวใจ), 5(โพธิ์ดำ), 6(ดอกจิก),
6(ข้ามหลามตัด), 6(หัวใจ), 6(โพธิ์ดำ), 7(ดอกจิก), 7(ข้ามหลามตัด), 7(หัวใจ), 7(โพธิ์ดำ), 8(ดอกจิก), 8(ข้ามหลามตัด),
8(หัวใจ), 8(โพธิ์ดำ), 9(ดอกจิก), 9(ข้ามหลามตัด), 9(หัวใจ), 9(โพธิ์ดำ), 10(ดอกจิก), 10(ข้ามหลามตัด), 10(หัวใจ),
10(โพธิ์ดำ), J(ดอกจิก), J(ข้ามหลามตัด), J(หัวใจ), J(โพธิ์ดำ), Q(ดอกจิก), Q(ข้ามหลามตัด), Q(หัวใจ), Q(โพธิ์ดำ), K(ดอกจิก), K(ข้ามหลามตัด), K(หัวใจ), K(โพธิ์ดำ), A(ดอกจิก), A(ข้ามหลามตัด), A(หัวใจ), A(โพธิ์ดำ), 2(ดอกจิก), 2(ข้ามหลามตัด),
2(หัวใจ) และ 2(โพธิ์ดำ)

กฎกติกาการเล่นไพ่ สลาฟ

ไม่ว่าจะเป็นการเล่น สลาฟออนไลน์ หรือเล่นที่บ้าน ก็มักจะมีข้อกำหนดกฎกติกาที่เหมือนกันก็คือ มีการแบ่งรอบการเล่นขั้นต่ำ 2 เกมด้วยกัน ส่วนรูปแบบตำแหน่งที่นั่งจะเป็นวงกลม ซึ่งเกมแรกจะมีไพ่ในมือแบบสุ่มคนละ 13 ใบ ส่วนใครมีไพ่ต่ำสุดอย่าง 3(ดอกจิก) ก็จะได้เริ่มก่อนแล้วค่อยให้ผู้เล่นคนถัดไปตามเข็มนาฬิกาเล่นต่อ สำหรับผู้ที่ได้เริ่มเล่นก่อนจะสามารถเลือกเล่นไพ่ได้สองแบบคือ ไพ่เดี่ยว คือลงไพ่เพียงใบเดียว หรือ ไพ่คู่ คือลงไพ่เป็นคู่ เช่น 3 กับ 3 ส่วนผู้ที่เล่นลำดับถัดไปก็จะต้องเล่นไปเดี่ยว หรือไพ่คู่ตามผู้ที่เล่นก่อนหน้านี้โดยไพ่ที่ลงต้องมีแต้มสูงกว่าคนก่อนหน้านี้

ในกรณีที่ผู้เล่นยังไม่ต้องการเล่นในตานั้นหรือไม่มีไพ่ที่สามารถลงได้ สามารถขอใช้สิทธิ ผ่าน ก่อนได้ แล้วถ้าหากมีคนขอผ่านครบรอบวงแล้ว ผู้ที่ลงไพ่สูงที่สุดก็จะได้เล่นก่อนในตาถัดไป ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีผู้ที่ไพ่หมดมือก่อนก็จะชนะเป็นอันดับที่ 1 ไปส่วนคนที่หมดมือถัดไปก็จะได้ลำดับที่ 2 , 3 และ 4 ตามลำดับ

แต้มพิเศษภายในเกม สลาฟ

ไม่ว่าจะเล่น สลาฟออนไลน์ หรือเล่นที่บ้านก็จะมีกฎการใช้แต้มพิเศษเช่นกัน นั่นก็คือ ไพ่ตอง(ไพ่สามใบ) กับไพ่โฟร์การ์ด(ไพ่สี่ใบ) โดยที่ไพ่ตองจะเป็นไพ่ที่มีแต้มเดียวกันสามใบ สามารถลงในรอบที่เป็นไพ่เดี่ยวได้ ซึ่งจะถือว่ามีแต้มที่สูงกว่าไพ่เดี่ยว ส่วนไพ่โฟร์การ์ดจะเป็นไพ่ที่มีแต้มเดียวกันสี่ใบ สามารถลงในรอบที่เป็นไพ่คู่ได้ ซึ่งจะถือว่ามีแต้มที่สูงกว่าไพ่คู่ นั่นเอง

ยศภายในเกมไพ่ สลาฟ

โดยปกติแล้วผู้ที่เล่นเกมไพ่ สลาฟออนไลน์ มักจะเล่นอย่างน้อย ๆ 2 เกมด้วยกัน ซึ่งเกมที่สองหรือเกมถัด ๆ ไปจะต่างจากเกมแรกตรงที่ หากใครเป็นผู้ที่ได้ที่ 1 ในเกมแรกหรือเกมก่อนหน้านี้ จะได้ยศเป็น กษัตริย์(King) ส่วนผู้ที่ได้ที่ 2 จะได้ยศเป็น ราชินี(Queen) แต่ผู้ที่ได้ลำดับสุดท้าย จะได้ยศเป็น ทาส(slave) ส่วนผู้ที่ได้ลำดับรองสุดท้าย จะได้ยศเป็น ชาวบ้าน(people) ส่วนความสำคัญของยศนั้น ก่อนเริ่มเกมทางกษัตริย์จะสามารถให้ไพ่ใดก็ได้แก่ทาส จำนวน 2 ใบ ส่วนทาสก็จะต้องให้ไพ่ใบที่สูงที่สุดแก่กษัตริย์ จำนวน 2 ใบ สำหรับราชินีก็จะสามารถให้ไพ่ใดก็ได้แก่ชาวบ้าน จำนวน 1 ใบ ส่วนชาวบ้านก็จะต้องให้ไพ่ใบที่สูงที่สุดแก่ราชินี จำนวน 1 ใบเช่นกัน โดยกฎการแพ้ชนะจะเปลี่ยนเป็น หากใครไพ่หมดมือก่อนกษัตริย์จะเป็นผู้ชนะและได้ยศกษัตริย์ในรอบถัดไป ส่วนผู้ที่เป็นกษัตริย์หากมีผู้ที่ไพ่หมดมือก่อนก็จะต้องแพ้ทันทีและในรอบถัดไปก็จะต้องเป็นทาสอีกด้วย

เทคนิคการเล่นไพ่ สลาฟ เพื่อให้ได้รับชัยชนะได้ง่าย

สำหรับเทคนิคการเล่นไพ่ สลาฟออนไลน์ ที่ทางเราจะมาแนะนำให้คุณได้ศึกษานี้เป็นหลักการชนะพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องรู้และเข้าใจ ซึ่งทางเราได้รวบรวมเป็นหัวข้อย่อย ๆ เอาไว้แล้วดังต่อไปนี้

1. พยายามลงไพ่แต้มที่ต่ำที่สุดก่อน

โดยปกติแล้วการเล่นไพ่ชนิดนี้จะเริ่มต้นที่ไพ่แต้มต่ำสุดกันอยู่แล้ว ซึ่งผู้เล่นจะต้องพยายามลงไพ่ที่ต่ำที่สุดของตัวเองให้น้อยลงก่อน เพื่อให้ไพ่หมดไวที่สุดและมีโอกาสลงไพ่ได้ง่ายขึ้นในตาต่อไปนั่นเอง

2. ใช้แต้มสูงเมื่อจำเป็น

ไพ่แต้มสูงที่สุดในมือถือเป็นไพ่ตายที่จะต้องเก็บไว้ใช้ในช่วงท้ายเกมที่ต้องการจะเป็นผู้ที่ได้ลงไพ่คนสุดท้าย แล้วได้ลงไพ่คนแรกในรอบถัดไปนั่นเอง

3. ลงไพ่คู่ช่วงท้ายเกม

โดยปกติแล้วการเล่นไพ่เกมนี้เรามักจะลงไพ่คู่กับคี่สลับกันไปมาบ้างอยู่แล้ว แต่ในช่วงท้ายเกมผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เก็บไพ่คู่ไว้เล่นเสียเท่าไหร่ ซึ่งถ้าหากคุณเก็บไพ่คู่ไว้เล่นในช่วงท้ายเกม ก็จะทำให้ไม่มีใครสามารถลงไพ่สู้คุณได้ นั่นเอง

4. จดจำไพ่ที่ลงไปแล้วของคนอื่นให้ดี

ถือเป็นข้อได้เปรียบมากสำหรับผู้เล่นเกมไพ่ชนิดนี้ หากคุณสามารถจดจำหรือบันทึกได้ว่าผู้เล่นคนไหนใช้ไพ่ใบใดไปแล้วบ้าง ก็จะสามารถทำให้คุณประเมินได้ว่าไพ่ของคนอื่นเป็นไพ่แบบไหน คู่หรือคี่ ทำให้คุณสามารถคำนวณกลยุทธ์ในรอบถัดไปได้ว่าควรจะลงไพ่ใบใดหรือแบบไหนถึงจะทำให้คุณชนะนั่นเอง

และทั้งหมดนี้คือเนื้อหาสาระของบทความเรื่อง  ทำความรู้จักกับเกมไพ่ สลาฟ หรือ สลาฟออนไลน์ ให้มากขึ้นกันเถอะ จากบทความนี้คุณคงจะเห็นแล้วว่าการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย อีกทั้งในปัจจุบันเกมไพ่ชนิดนี้ยังอยู่ในรูปแบบออนไลน์และสามารถทำเงินได้จริงอีกด้วย คุณจึงสามารถสนุกไปกับเกมไพ่พร้อม ๆ กันกับการหาเงินใช้ไปด้วยนั่นเอง